อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นที่รู้จักในฐานะอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การตัดสินใจอย่างมีสติในการซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ยั่งยืนและมีจริยธรรมจะส่งผลดีต่อโลกและผู้คนในนั้น
ต่อไปนี้คือสี่เหตุผลว่าทำไมคุณจึงควรเปลี่ยนมาเลือกแฟชั่นที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม…
1. คุณภาพช่วยลดของเสีย
แบรนด์ที่ยั่งยืนเน้นที่คุณภาพ โดยใช้วัสดุและการตกแต่งที่ผลิตมาให้คงทนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เสื้อผ้าที่ผลิตโดยแบรนด์แฟชั่นฟาสต์ไม่ได้ผลิตมาให้คงทน เป้าหมายคือการดึงดูดให้คุณซื้อมากขึ้น แล้วทำไมจึงต้องเน้นที่การผลิตเสื้อผ้าที่มีคุณภาพและคงทนด้วยล่ะ การเลือกแบรนด์ที่ยั่งยืนและมีคุณภาพจะช่วยลดขยะและปริมาณเสื้อผ้าที่คุณซื้อได้ (และยังช่วยประหยัดเงินให้คุณอีกด้วย)
2. คุณควรทำสิ่งที่คุณ
แฟชั่นฟาสต์แฟชั่นเป็นเรื่องเกี่ยวกับกระแสแฟชั่น แต่เรามักถูกบอกเสมอว่าควรใส่เสื้อผ้าแบบไหนมาเป็นเวลานาน จนหลายคนลืมไปว่าสไตล์เฉพาะตัวของเราเป็นอย่างไร แบรนด์ที่ยั่งยืนหลายแห่งเน้นที่การสร้างสรรค์ชิ้นงานเหนือกาลเวลาที่มีคุณภาพสูง เลือกสรรสไตล์ส่วนตัวของคุณ บอกลาเทรนด์แฟชั่นที่สิ้นเปลืองเงิน และสวมเสื้อผ้าที่สะท้อนตัวตนของคุณ
3. ดีต่อโลกมากกว่า
อุตสาหกรรมแฟชั่นฟาสต์สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากการฝังกลบ การใช้ไฟฟ้าและน้ำ ไปจนถึงยาฆ่าแมลงและยาฆ่าแมลงที่ใช้ในการปลูกฝ้าย และสารเคมีที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน เรียกได้ว่าแฟชั่นฟาสต์เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง เมื่อเลือกแฟชั่นที่ยั่งยืน คุณสามารถปฏิเสธผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมที่อุตสาหกรรมแฟชั่นก่อขึ้นได้ และในทางกลับกันก็ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของคุณเองด้วย
4.มันดีต่อผู้คนมากกว่า
แฟชั่นแบบฟาสต์แฟชั่นทำให้ราคาเสื้อผ้าลดลง โดยแลกมาด้วยค่าจ้างที่ต่ำและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในประเทศกำลังพัฒนา การเลือกใช้แบรนด์ที่ผลิตขึ้นโดยคำนึงถึงจริยธรรม จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเสื้อผ้าที่คุณเลือกใช้จ่ายเงินไปนั้นไม่ได้เอาเปรียบคนงานหรือใช้แรงงานเด็ก
คุณปฏิบัติตามแฟชั่นที่ยั่งยืนและมีจริยธรรมแล้วหรือยัง หรือคุณกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงอยู่ใช่หรือไม่ บอกเคล็ดลับและคำแนะนำของคุณให้เราทราบ...